IV. องค์กรเอกชนส่งเสริมการเคลื่อนไหววีแก้น
วิธีที่ดีที่สุดที่องค์กรเอกชนจะช่วยได้ ก็คือ ถ้าคุณทุกคนช่วยกันสนับสนุนวิธีการแก้ปัญหาอันดับหนึ่ง และมีประสิทธิภาพที่สุดอย่างกระตือรือร้น – ซึ่งก็คือ การทานอาหารวีแก้น - เพื่อยับยั้งภาวะโลกร้อน เพราะตอนนี้เราไม่มีเวลามากนักที่จะรอให้เทคโนโลยีสีเขียวส่งผล ยิ่งไปกว่านั้น เทคโนโลยีสีเขียวใช้เวลานานในการติดตั้ง
ดังนั้น การรับประทานวีแก้นเป็น [การแก้ปัญหา] อันดับหนึ่ง เพราะอุตสาหกรรมเนื้อสัตว์ปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ดักความร้อนสำหรับโลกเรามากที่สุด และยังมีมลพิษอีกด้วย – มากกว่า 50%140 ลองจินตนาการดูว่าถ้าเรากำจัดก๊าซที่เป็นอันตรายมากกว่า 50% แล้ว โลกเราจะเย็นลงลง 50% ทันที เป็นอย่างน้อย
ถ้าเราหันสู่การทำเกษตรแบบออแกนิก พื้นที่ทั้งหมดที่สามารถเพาะปลูกได้บนโลก ถ้าเราใช้มันทั้งหมดไปกับการทำไร่ออแกนิกแล้ว มันยังช่วยดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้อีก 40% ในบรรยากาศ141 ทั้งหมดนี้รวมกัน เราจะทำให้โลกเย็นลงอย่างรวดเร็ว ไม่มีอะไรลึกลับหรือพิสูจน์ไม่ได้ มันล้วนเป็นวิทยาศาสตร์ ทั้งหมดนี้ได้รับการพิสูจน์แล้วและชัดเจน
ดังนั้นมันขึ้นอยู่กับคุณ และความสามารถของคุณที่จะจัดการ ประกาศ พูดออกไป ซึ่งฉันต้องพึ่งพาคุณเพื่อให้ได้รับความสนใจของรัฐบาล ณ การประชุมการเปลี่ยนแปลงสภาวะอากาศที่กรุงโคเปนเฮเก้น โปรดทำอย่างดีที่สุด และรัฐบาลสามารถนำการแก้ปัญหานี้ไปขยายต่อหลังจากได้ฟังคุณ
องค์กรเอกชนรู้ดีว่าจะเริ่มการเคลื่อนไหวที่สร้างสรรค์บนโลกนี้อย่างไร พวกเขาจำเป็นและสำคัญต่อโลกของเรามาก องค์กรเอกชนทั้งหมดสำคัญอย่างยิ่งต่อมนุษยชาติและความอยู่รอดของเรา ทันทีที่พวกเขาเริ่มลงมือปฏิบัติ และในจุดนี้มันต้องใช้ทุกความพยายาม และทุกองค์กรเอกชน รัฐบาล สื่อมวลชน สาธารณะ ทุก ๆ คน ที่จะเข้ามามีส่วนร่วม
โลกของเราคือบ้านที่กำลังไฟไหม้ ถ้าเราไม่ทำงานร่วมกันด้วยจิตวิญญาณที่เป็นหนึ่งเพื่อดับไฟ เราจะไม่มีบ้านอีกต่อไป คนบนโลกหนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ต้องเป็นวีแก้นในไม่ช้าเพื่อช่วยโลกนี้ไว้
เราสามารถรักษาเป้าหมายการปล่อยก๊าซได้ แต่ต้องขยายมันออกไปและจัดลำดับความสำคัญอย่างฉลาด อันดับแรกและสำคัญที่สุด กำจัดแหล่งที่ใหญ่ที่สุดของก๊าซมีเทนที่มนุษย์เป็นต้นเหตุ ซึ่งก็คือ การปศุสัตว์ หยุดการผลิตสัตว์ แล้วเราจะหยุดภาวะโลกร้อน – ง่ายมาก ๆ เพราะภาวะโลกร้อนเกิดจากผลิตภัณฑ์จากสัตว์ แค่นั้นเอง ธรรมดามาก ตรงไปตรงมา ไม่มีอะไรลึกลับ ไม่มีอะไรยาก
พูดตามตรงแล้ว ขณะที่แผนงานต่าง ๆ กำลังดำเนินไปในตอนนี้ เราจะไม่สามารถช่วยโลกใบนี้ไว้ได้ มันจะสายเกินไป ตามวิธีทางที่เรากำลังทำอยู่ในตอนนี้ มันจะสายเกินไปที่จะช่วยโลกเราไว้ ดังนั้น เราต้องเป็นวีแก้นก่อน และนั่นเป็นการรักษาสิ่งแวดล้อมในเวลาเดียวกัน แล้วเทคโนโลยีสีเขียวอื่น ๆ เราก็จะมีเวลาที่จะพัฒนาและติดตั้ง
และหลังจากนั้นเราจะมีโลกที่เป็นสวรรค์อีกด้วย เพราะการเป็นวีแก้นเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งอย่างมาก ตั้งแต่สิ่งแวดล้อมไปจนถึงจิตใจของมนุษย์ มาตรฐานของโลก และการมีสันติสุขบนโลก การกำจัดความหิวโหย การมีความเป็นพี่น้องที่แท้จริงของมนุษยชาติ
ด้วยอุณหภูมิที่เสถียร ระบบนิเวศที่สมดุล สัตว์เจริญเติบโตในความสงบสุขและมนุษย์ค้นพบกับสุขภาพและความสุขและสิ่งประดิษฐ์ใหม่ ๆ ที่น่าเหลือเชื่อ ชีวิตของเราจะเป็นเหมือนสวรรค์ในฝันอย่างที่ไม่เคยจินตนาการมาก่อน
สมาชิกสมาคมนานาชาติอนุตราจารย์ชิงไห่กำลังรณรงค์ทางออกวีแก้น
ที่งาน COP15 ที่กรุงโคเปนเฮเก้น ประเทศเดนมาร์ค 2009.